คำพิพากษาศาลฎีกา คดีอาญา ที่น่าสนใจ

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2567 ส่งหมายไม่ชอบ, ภูมิลำเนาของผู้ที่ถูกจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดของศาล หรือตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายได้แก่เรือนจำ หรือทัณฑสถานที่ถูกจำคุกอยู่จนกว่าจะได้รับการปล่อยตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4639/2566 การกระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน, ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 

- คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4196/2566  ผู้มีวิชาชีพในการก่อสร้างตามความหมายของ ป.อ. มาตรา 227 ป.อ.หมายรวมถึงผู้ที่มีความรู้ ความชำนาญ ในการทำงานอันได้รับการฝึกฝนจากการประกอบอาชีพตามปกติด้วย.

-  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4129/2566 เบิกความเท็จต้องเป็นข้อสำคัญในคดี, บรรยายฟ้องไม่ครบองค์ประกอบความผิด

-  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4071/2566 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, การดำเนินการให้รับจ้างตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้านั้นเป็นความผิดสำเร็จเมื่อตรวจมดลูกและฝังตัวอ่อนอันเป็นการดำเนินการครบถ้วนในทางการแพทย์ที่จะทำให้หญิงตั้งครรภ์โดยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์แล้ว

-  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4049/2566 ริบทรัพย์, ใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะให้คนต่างด้าวนั่งโดยสารมาในรถด้วยเท่านั้น มิได้เป็นการใช้รถยนต์เพื่อพาคนต่างด้าวหลบหนีให้พ้นจากการจับกุม หรือเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจโดยตรง รถยนต์จึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่จำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด

-  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2566 ความผิดฐานบุกรุก,  คำพิพากษาผูกพันคู่ความ, การใช้ดุลพินิจชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน

 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185/2566 คำพิพากษาผูกพันคู่ความ,เจ้าของรวมคนหนึ่งใช้สิทธิอันเกิดแต่กรรมสิทธิ์ครอบไปถึงทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อต่อสู้บุคคลภายนอก,การกระทำโดยเจตนา,ความผิดฐานบุกรุก

-  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4789/2565 ฟ้องว่ากระทำความผิด ป.อ.มาตรา 149 แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าเป็นความผิดมาตรา 148 เมื่อไม่ได้บรรยายฟ้องให้ลงโทษในความผิดฐานดังกล่าว จึงไม่อาจลงโทษได้ เพราะต้องห้ามตาม ป.วิ.อ.มาตรา 192 วรรคหนึ่ง

-  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4423/2564 ตัวการร่วมกระทำความผิด, ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิดจะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้ ตาม ป.อ. มาตรา 59 วรรคสาม

-  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8575/2563 แอบนำเอาเครื่องบันทึกเสียงมาทำการบันทึกการสนทนาระหว่างคู่สนทนาแล้วนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานในศาล เป็นการแสวงหาพยานหลักฐานโดยมิชอบ ต้องห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานนั้น ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 226 

-  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1354/2563 พยานหลักฐานของโจทก์มีลักษณะขัดแย้งกันและเป็นพิรุธในหลายจุด ยังไม่มีน้ำหนักมั่นคงพอและเป็นที่สงสัยตามสมควรว่าจำเลยเป็นคนร้ายหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 227 วรรคสอง

-  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2563 นักยอกทรัพย์มรดก, หน้าที่ของผู้จัดการมรดก

-  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1453/2562 ศาลที่พิจารณาคดีอาญาไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนแพ่ง เพราะหลักการวินิจฉัยชั่งน้ำหนักคำพยานในคดีแพ่งและคดีอาญาไม่เหมือนกัน ในคดีอาญาศาลจะต้องใช้ดุลพินิจชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวงจนแน่ใจว่าพยานโจทก์พอรับฟังลงโทษจำเลยได้หรือไม่ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 227

-  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4765/2558 บันทึกคำให้การของผู้ต้องหา เป็นพยานบอกเล่าอย่างหนึ่งตาม ป.วิ.อ. มาตรา 226/3 เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธและไม่มีข้อเท็จจริงแวดล้อมน่าเชื่อว่าจะพิสูจน์ความจริงได้ จึงรับฟังลงโทษจำเลยไม่ได้

-  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3278/2522 คำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องคดีของอธิบดีกรมอัยการ(อัยการสูงสุด)เป็นอันถึงที่สุด ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 145  ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ให้อำนาจอธิบดีกรมอัยการ(อัยการสูงสุด)รื้อฟื้นคดีขึ้นมาชี้ขาดใหม่ได้