ประมวลกฎหมายอาญา

สารบาญ ประมวลกฎหมายอาญา 


ภาค ๑ บทบัญญัติทั่วไป  

          ลักษณะ ๑ บทบัญญัติที่ใช้แก่ความผิดทั่วไป
               หมวด ๑ บทนิยาม มาตรา ๑
               หมวด ๒ การใช้กฎหมายอาญา มาตรา ๒-๑๗
               หมวด ๓ โทษและวิธีการเพื่อความปลอดภัย
                    ส่วนที่ ๑ โทษ มาตรา ๑๘-๓๘
                    ส่วนที่ ๒ วิธีการเพื่อความปลอดภัย มาตรา ๓๙-๕๐
                    ส่วนที่ ๓ วิธีเพิ่มโทษ ลดโทษ และการรอการลงโทษ มาตรา ๕๑-๕๘
               หมวด ๔ ความรับผิดในทางอาญา มาตรา ๕๙-๗๙
               หมวด ๕ การพยายามกระทำความผิด มาตรา ๘๐-๘๒
               หมวด ๖ ตัวการและผู้สนับสนุน มาตรา ๘๓-๘๙
               หมวด ๗ การกระทำความผิดหลายบทหรือหลายกระทง มาตรา ๙๐-๙๑
               หมวด ๘ การกระทำความผิดอีก มาตรา ๙๒-๙๔
               หมวด ๙ อายุความ มาตรา ๙๕-๑๐๑
          ลักษณะ ๒ บทบัญญัติที่ใช้แก่ความผิดลหุโทษ มาตรา ๑๐๒-๑๐๖

ภาค ๒ ความผิด 

          ลักษณะ ๑ ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
               หมวด ๑ ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มาตรา ๑๐๗-๑๑๒
               หมวด ๒ ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายใน ราชอาณาจักร มาตรา ๑๑๓-๑๑๘
               หมวด ๓ ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอก ราชอาณาจักร มาตรา ๑๑๙-๑๒๙
               หมวด ๔ ความผิดต่อสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ มาตรา ๑๓๐-๑๓๕
          ลักษณะ ๑/๑ ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย มาตรา ๑๓๕/๑-๑๓๕/๔
          ลักษณะ ๒ ความผิดเกี่ยวกับการปกครอง
               หมวด ๑ ความผิดต่อเจ้าพนักงาน มาตรา ๑๓๖-๑๔๖
               หมวด ๒ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ มาตรา ๑๔๗-๑๖๖
          ลักษณะ ๓ ความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม
               หมวด ๑ ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม มาตรา ๑๖๗-๑๙๙
               หมวด ๒ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม มาตรา ๒๐๐-๒๐๕
          ลักษณะ ๔ ความผิดเกี่ยวกับศาสนา มาตรา ๒๐๖-๒๐๘
          ลักษณะ ๕ ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน มาตรา ๒๐๙-๒๑๖
          ลักษณะ ๖ ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน มาตรา ๒๑๗-๒๓๙
          ลักษณะ ๗ ความผิดเกี่ยวกับการปลอมและการแปลง
               หมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับเงินตรา มาตรา ๒๔๐-๒๔๙
               หมวด ๒ ความผิดเกี่ยวกับดวงตรา แสตมป์และตั๋ว มาตรา ๒๕๐-๒๖๓
               หมวด ๓ ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร มาตรา ๒๖๔-๒๖๙
               หมวด ๔ ความผิดเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ มาตรา ๒๖๙/๑-๒๖๙/๗
               หมวด ๕ ความผิดเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง มาตรา ๒๖๙/๘-๒๖๙/๑๕
          ลักษณะ ๘ ความผิดเกี่ยวกับการค้า มาตรา ๒๗๐-๒๗๕
          ลักษณะ ๙ ความผิดเกี่ยวกับเพศ มาตรา ๒๗๖-๒๘๗
          ลักษณะ ๑๐ ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย
               หมวด ๑ ความผิดต่อชีวิต มาตรา ๒๘๘-๒๙๔
               หมวด ๒ ความผิดต่อร่างกาย มาตรา ๒๙๕-๓๐๐
               หมวด ๓ ความผิดฐานทำให้แท้งลูก มาตรา ๓๐๑-๓๐๕
               หมวด ๔ ความผิดฐานทอดทิ้งเด็ก คนป่วยเจ็บหรือคนชรา มาตรา ๓๐๖-๓๐๘
          ลักษณะ ๑๑ ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพและชื่อเสียง
               หมวด ๑ ความผิดต่อเสรีภาพ มาตรา ๓๐๙-๓๒๑/๑
               หมวด ๒ ความผิดฐานเปิดเผยความลับ มาตรา ๓๒๒-๓๒๕
               หมวด ๓ ความผิดฐานหมิ่นประมาท มาตรา ๓๒๖-๓๓๓
          ลักษณะ ๑๒ ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์
               หมวด ๑ ความผิดฐานลักทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์ มาตรา ๓๓๔-๓๓๖ ทวิ
               หมวด ๒ ความผิดฐานกรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ และปล้นทรัพย์ มาตรา ๓๓๗-๓๔๐ ตรี
               หมวด ๓ ความผิดฐานฉ้อโกง มาตรา ๓๔๑-๓๔๘
               หมวด ๔ ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ มาตรา ๓๔๙-๓๕๑
               หมวด ๕ ความผิดฐานยักยอก มาตรา ๓๕๒-๓๕๖
               หมวด ๖ ความผิดฐานรับของโจร มาตรา ๓๕๗
               หมวด ๗ ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ มาตรา ๓๕๘-๓๖๑
               หมวด ๘ ความผิดฐานบุกรุก มาตรา ๓๖๒-๓๖๖
          ลักษณะ ๑๓ ความผิดเกี่ยวกับศพ มาตรา ๓๖๖/๑-๓๖๖/๔

ภาค ๓ ลหุโทษ มาตรา ๓๖๗ - ๓๙๘

----------------------------






พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๔๙๙
               
          ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
          ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙
          เป็นปีที่ ๑๑ ในรัชกาลปัจจุบัน

          พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

          โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายอาญาเสียใหม่เพราะตั้งแต่ได้ประกาศใช้กฎหมายลักษณะอาญา ในพุทธศักราช ๒๔๕๑ เป็นต้นมา พฤติการณ์ของบ้านเมืองได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอันมาก

          จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร ดังต่อไปนี้

          มาตรา ๑  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๔๙๙”

          มาตรา ๒  พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

          มาตรา ๓  ประมวลกฎหมายอาญาท้ายพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นต้นไป

          มาตรา ๔  เมื่อประมวลกฎหมายอาญาได้ใช้บังคับแล้ว ให้ยกเลิกกฎหมายลักษณะอาญา

          มาตรา ๕  เมื่อประมวลกฎหมายอาญาได้ใช้บังคับแล้ว ในกรณีที่กฎหมายใดได้กำหนดโทษโดยอ้างถึงโทษฐานลหุโทษในกฎหมายลักษณะอาญาไว้ ให้ถือว่ากฎหมายนั้นได้อ้างถึงโทษ ดังต่อไปนี้
          ถ้าอ้างถึงโทษชั้น ๑ หมายความว่า ปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท
          ถ้าอ้างถึงโทษชั้น ๒ หมายความว่า ปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
          ถ้าอ้างถึงโทษชั้น ๓ หมายความว่า จำคุกไม่เกินสิบวัน หรือปรับไม่เกินห้าร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          ถ้าอ้างถึงโทษชั้น ๔ หมายความว่า จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          มาตรา ๖  เมื่อประมวลกฎหมายอาญาได้ใช้บังคับแล้ว ในการจำคุกแทนค่าปรับตามกฎหมายใด ไม่ว่ากฎหมายนั้นจะบัญญัติไว้ประการใด ให้นำประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับ แต่สำหรับความผิดที่ได้กระทำก่อนวันที่ประมวลกฎหมายอาญาใช้บังคับ มิให้กักขังเกินกว่าหนึ่งปีสำหรับโทษปรับกระทงเดียว และสองปีสำหรับโทษปรับหลายกระทง

          มาตรา ๗  ในกรณีวิธีการเพื่อความปลอดภัยตามมาตรา ๔๖ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับเสมือนเป็นความผิดอาญา แต่ห้ามมิให้คุมขังชั้นสอบสวนเกินกว่าสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาที่ผู้ถูกจับมาถึงที่ทำการของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ แต่มิให้นับเวลาเดินทางตามปกติที่นำตัวผู้ถูกจับมาศาลรวมเข้าในกำหนดเวลาสี่สิบแปดชั่วโมงนั้นด้วย

          มาตรา ๘  เมื่อประมวลกฎหมายอาญาได้ใช้บังคับแล้ว บทบัญญัติแห่งกฎหมายใดอ้างถึงกฎหมายลักษณะอาญา หรืออ้างถึงบทบัญญัติแห่งกฎหมายลักษณะอาญา ให้ถือว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นอ้างถึงประมวลกฎหมายอาญา หรือบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญาในบทมาตราที่มีนัยเช่นเดียวกัน แล้วแต่กรณี

          ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
            จอมพล ป.  พิบูลสงคราม
                นายกรัฐมนตรี

          หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ กฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. ๑๒๗ ได้ประกาศใช้มานานแล้วและได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมอยู่หลายแห่งกระจัดกระจายกันอยู่ จึงเป็นการสมควรที่จะได้ชำระสะสาง และนำเข้ารูปเป็นประมวลกฎหมายอาญาเสียในฉบับเดียวกัน
อนึ่ง ปรากฏว่าหลักการบางอย่างและวิธีการลงโทษบางอย่างควรจะได้ปรับปรุงให้สมกับกาลสมัยและแนวนิยมของนานาประเทศ ในสมัยปัจจุบันหลักเดิมบางประการจึงล้าสมัย สมควรจะได้ปรับปรุงเสียให้สอดคล้องกับหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย