สาระสำคัญ
ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๒ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ (โคกกลอย) - ต่อเขตเทศบาลเมืองภูเก็ตควบคุม รวมทางเลี่ยงเมืองภูเก็ตที่บ้านนาในและบ้านท่าเรือ ในท้องที่เทศบาลตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต นั้น กรมทางหลวงเห็นว่า การขยายทางหลวงแผ่นดินสายดังกล่าว มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่ถ้าปล่อยเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมหรือประโยชน์ของรัฐอันสำคัญอย่างอื่น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๘ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ กรมทางหลวง โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จึงประกาศการเข้าครอบครองและใช้อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในแนวเขตพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนก่อนการเวนคืน ในท้องที่เทศบาลตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เจ้าหน้าที่เวนคืน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองและใช้อสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้
ซึ่งเจ้าของหรือบุคคลตามมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ยังคงมีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทน หากไม่มารับเงินค่าทดแทน กรมทางหลวงจะวางเงินค่าทดแทนกับสำนักงานวางทรัพย์หรือฝากไว้กับธนาคารออมสิน ณ สำนักงานที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ หรือสำนักงานที่เจ้าหน้าที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทน ถ้าผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนไม่ไปขอรับเงินภายในสิบปี นับแต่วันที่มีหนังสือแจ้งให้มารับเงินค่าทดแทนให้เงินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน ตามมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓
สราวุธ ทรงศิวิไล
อธิบดีกรมทางหลวง
เจ้าหน้าที่เวนคืน
ที่มา http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/017/T_0019.PDF
