พระราชบัญญัติ
ให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
พุทธศักราช ๒๔๗๗
ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
(ตามประกาศประธานสภาผู้แทนราษฎร
ลงวันที่ ๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๗)
อนุวัตน์จาตุรนต์
อาทิตย์ทิพอาภา
เจ้าพระยายมราช
ตราไว้ ณ วันที่ ๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๘
เป็นปีที่ ๒ ในรัชชกาลปัจจุบัน
โดยที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติว่าเป็นการสมควรที่จะประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
จึงมีพระบรมราชโองการ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้ให้เรียกว่า “พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พุทธศักราช ๒๔๗๗”
มาตรา ๒ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาตามที่ตราไว้ต่อท้ายพระราชบัญญัตินี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๗๘ เป็นต้นไป
ให้ศาลและเจ้าพนักงานทั้งหลายผู้ดำเนินคดีอาญาตลอดราชอาณาจักร ปฏิบัติการตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ เว้นแต่ศาลซึ่งมีวิธีพิจารณาพิเศษไว้ต่างหาก
คดีทั้งหลายซึ่งค้างอยู่ในศาลก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายนี้ ให้บังคับตามกฎหมายซึ่งใช้อยู่ก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายนี้จนกว่าคดีนั้น ๆ จะถึงที่สุด
มาตรา ๔ ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา ๓ ตั้งแต่วันใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญานี้สืบไป ให้ยกเลิกมาตรา ๑๔, ๑๖ และมาตรา ๘๗ ถึง ๙๖ ในกฎหมายลักษณะอาญา พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความมีโทษสำหรับใช้ไปพลางก่อน ร.ศ. ๑๑๕ และบรรดากฎหมาย กฎและข้อบังคับอื่น ๆ ในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในประมวลกฎหมายนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับประมวลกฎหมายนี้
มาตรา ๕ ให้ประธานศาลฎีกา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ให้ประธานศาลฎีกามีอำนาจออกข้อบังคับ และนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีอำนาจออกกฎกระทรวง เพื่อวางระเบียบการงานตามหน้าที่ให้การดำเนินคดีอาญาเป็นไปโดยเรียบร้อย ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของตน
ข้อบังคับหรือกฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา
นายกรัฐมนตรี
สารบาญประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ภาค ๑ ข้อความเบื้องต้น
ลักษณะ ๒ อำนาจพนักงานสอบสวนและศาล
หมวด ๑ หลักทั่วไป มาตรา ๑๖
หมวด ๒ อำนาจสืบสวนและสอบสวน มาตรา ๑๗-๒๑
หมวด ๓ อำนาจศาล มาตรา ๒๒-๒๗
ลักษณะ ๓ การฟ้องคดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
หมวด ๑ การฟ้องคดีอาญา มาตรา ๒๘-๓๙
หมวด ๒ การฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา มาตรา ๔๐-๕๑
ลักษณะ ๔ หมายเรียกและหมายอาญา
หมวด ๑ หมายเรียก มาตรา ๕๒-๕๖
หมวด ๒ หมายอาญา
ส่วนที่ ๑ หลักทั่วไป มาตรา ๕๗-๖๕
ส่วนที่ ๒ หมายจับ มาตรา ๖๖-๖๘
ส่วนที่ ๓ หมายค้น มาตรา ๖๙-๗๐
ส่วนที่ ๔ หมายขัง หมายจำคุก หมายปล่อย มาตรา ๗๑-๗๖
ลักษณะ ๕ จับ ขัง จำคุก ค้น ปล่อยชั่วคราว
หมวด ๑ จับ ขัง จำคุก มาตรา ๗๗-๙๐
หมวด ๒ ค้น มาตรา ๙๑-๑๐๕
หมวด ๓ ปล่อยชั่วคราว มาตรา ๑๐๖-๑๑๙ ทวิ
ภาค ๒ สอบสวน
ลักษณะ ๑ หลักทั่วไป มาตรา ๑๒๐-๑๒๙
ลักษณะ ๒ การสอบสวน
หมวด ๑ การสอบสวนสามัญ มาตรา ๑๓๐-๑๔๗
หมวด ๒ การชันสูตรพลิกศพ มาตรา ๑๔๘-๑๕๖
ภาค ๓ วิธีพิจารณาในศาลชั้นต้น
ลักษณะ ๑ ฟ้องคดีอาญาและไต่สวนมูลฟ้อง มาตรา ๑๕๗-๑๗๑
ลักษณะ ๒ การพิจารณา มาตรา ๑๗๒-๑๘๑
ลักษณะ ๑ อุทธรณ์
หมวด ๑ หลักทั่วไป มาตรา ๑๙๓-๒๐๒
หมวด ๒ การพิจารณา คำพิพากษา และคำสั่งชั้นอุทธรณ์ มาตรา ๒๐๓-๒๑๕
ลักษณะ ๒ ฎีกา
หมวด ๑ หลักทั่วไป มาตรา ๒๑๖-๒๒๔
หมวด ๒ การพิจารณา คำพิพากษา และคำสั่งชั้นฎีกา มาตรา ๒๒๕
ภาค ๕ พยานหลักฐาน
หมวด ๑ หลักทั่วไป มาตรา ๒๒๖-๒๓๑
หมวด ๔ พยานวัตถุ มาตรา ๒๔๑-๒๔๒
หมวด ๕ ผู้เชี่ยวชาญ มาตรา ๒๔๓-๒๔๔/๑
ภาค ๖ การบังคับตามคำพิพากษาและค่าธรรมเนียม
หมวด ๑ การบังคับตามคำพิพากษา มาตรา ๒๔๕-๒๕๑
หมวด ๒ ค่าธรรมเนียม มาตรา ๒๕๒-๒๕๘
ภาค ๗ อภัยโทษ เปลี่ยนโทษหนักเป็นเบา และลดโทษ มาตรา ๒๕๙-๒๖๗
บัญชีแนบท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา